มดลูกอักเสบ

ลักษณะทั่วไป
ช่องคลอดอักเสบ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทั่วไป ซึ่งอาจมีสาเหตุ อาการ และการรักษา
ที่แตกต่างกัน ในที่นี้จะขอกล่าวถึงช่องคลอดอักเสบที่พบบ่อย ได้แก่ช่องคลอดอักเสบจาก
เชื้อราและจากเชื้อพยาธิทริโคโมแนส

สาเหตุ

1. ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา

เกิดจากเชื้อราที่ชื่อว่า แคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida albicans) ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดเดียวกับที่ทำให้ลิ้นเป็นฝ้าขาว ผู้หญิงจำนวนไม่น้อย จะมีเชื้อราชนิดนี้อยู่ในช่องคลอด แต่จะไม่แสดง อาการอักเสบแต่อย่างไร เนื่องจากแบคทีเรียที่ไม่มีพิษภัยในช่องคลอดคอยสร้างกรด ช่วยควบ
คุมไม่ให้เชื้อราเจริญงอกงาม แต่ถ้าหากมีภาวะบางอย่าง ที่ทำให้แบคทีเรียเหล่านี้ถูกทำลาย เช่น การกินยาปฏิชีวนะ (เช่น เตตราไซคลีน อะม็อกซีซิลลิน เป็นต้น) นาน ๆ หรือการสวนล้าง
ช่องคลอด เป็นต้น  จะทำให้เชื้อราเจริญได้ นอกจากนี้การกินยาคุมกำเนิด หรือการตั้งครรภ์ ก็อาจเปลี่ยนแปลงสภาพภายในช่องคลอด ทำให้เชื้อราเจริญงอกงามได้เช่นกัน

2. ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อราทริโคโมแนส

เกิดจากเชื้อโปรโตชัว (สัตว์เซลล์เดียว) ซึ่งเป็นพยาธิขนาดเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า ทริโคโมแนส 
วาจินาลิส (Trichomonas vaginalis) ติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคนี้ ถือเป็น
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (กามโรค) ชนิดหนึ่ง

อาการ
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา
ผู้ป่วยจะมีอาการคันในช่องคลอด หรือรอบ ๆ ปากช่องคลอดอย่างมาก และมีตกขาวลักษณะ
ข้นขาวคล้ายแป้งเปียก หรือคราบนม อาจมีความรู้สึกเจ็บขณะร่วมเพศ หรือมีอาการปัสสาวะ
บ่อย และปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย บางคนอาจมีผื่นแดงรอบ ๆ ปากช่องคลอดหรือบริเวณ
ขาหนีบ

ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อทริโคโมแนส
ผู้ป่วยจะมีอาการคันในช่องคลอดมาก บางครั้งอาจมีอาการขัดเบา หรือปวดแสบปวดร้อนเวลา
ปัสสาวะ และมีอาการตกขาว ออกเป็นสีเหลืองหรือเขียว มีกลิ่นเหม็น มักออกเป็นจำนวนมาก
และมีลักษณะเป็นฟอง ๆ

การรักษา

ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา

หากสงสัย ควรส่งโรงพยาบาล อาจต้องตรวจภายในช่องคลอด และนำตกขาวไปตรวจส่องด้วย
กล้องจุลทรรศน์ จะพบเชื้อราที่เป็นสาเหตุ การรักษา ให้ยาเหน็บช่องคลอด ซึ่งเข้ายาฆ่าเชื้อรา 
เช่น ยาเหน็บช่องคลอดนิสแตติน (Nystatin) ขนาด 100,000 ยูนิต หรือยาเหน็บช่องคลอด
ไมโคสแตติน (Mycostatin) เหน็บเช้าเม็ด และก่อนนอนอีกเม็ด เหน็บทุกวันติดต่อกัน 14 วัน
หรือใช้ยาเหน็บโคลไตรมาโซล (Clotrimazole) ขนาด 500 มก. เหน็บครั้งเดียว ก่อนนอน 
หรือใช้ขนาด 100 มก. เหน็บวันละครั้ง ก่อนนอน ทุกคืนติดต่อกัน 6 วัน หรือกินยาคีโตโคนาโซล
 400 มก. วันละครั้ง นาน 5 วัน ถ้าจะหลับนอนกับสามี ควรให้สามีสวมถุงยางอนามัย เพื่อป้อง
กันการติดเชื้อ

ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อทริโคโมแนส

หากสงสัย ควรส่งโรงพยาบาล อาจต้องตรวจภายในช่องคลอด และนำตกขาวไปตรวจส่องด้วย
กล้องจุลทรรศน์ จะพบเชื้อทริโคโนแนส การรักษาให้ยาฆ่าเชื้อ ได้แก่ เมโทรไนดาโซล  2 กรัม 
(ขนาด 200 มก. 10 เม็ด) ครั้งเดียว หรือให้ครั้งละ 500 มก.วันละ 2 ครั้ง นาน 7 วัน และควรให้
ฝ่ายชายกินยานี้พร้อม ๆ กันไปด้วย เพื่อป้องกันมิให้ฝ่ายหญิงรับเชื้อราซ้ำอีก   ในหญิงตั้งครรภ์
3 เดือนแรก ไม่ควรกินยานี้ ควรใช้ยาเหน็บโคไตรมาโซล (Clotrimazole)  ขนาด 500 มก.
เหน็บครั้งเดียว ก่อนนอน หรือขนาด 100 มก. เหน็บวันละครั้ง ก่อนนอน ติดต่อกัน 6 วั

แนะนำ
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา

1. โรคนี้ไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่ทำให้มีอาการคันในช่องคลอดรุนแรง จน
บางครั้งทำให้เสียบุคลิกภาพ
2. ในกรณีที่ไม่สามารถให้แพทย์ตรวจภายในช่องคลอด ถ้ามีประวัติอาการชัดเจน เช่น มี
อาการหลังกินยาปฏิชีวนะ ก็อาจให้ยาหน็บช่องคลอดไปได้เลย ถ้าไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ 
จึงค่อยแนะนำไปตรวจที่โรงพยาบาล
3. ผู้หญิงที่กินยาเม็ดคุมกำเนิด ถ้ามีอาการของโรคนี้ เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ควรเลิกกินยาคุม
กำเนิดและหันไปคุมกำเนิดโดยวิธีอื่นแทน
4. อาการช่องคลอดอักเสบ (ตกขาวและคัน) อาจเป็นอาการแสดงของโรคเบาหวานได้ หาก
สงสัยควรตรวจน้ำตาลในปัสสาวะหรือในเลือด 

ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อทริโคโมแนส

1. โรคนี้ไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่จะมีอาการคันมากจนเป็นที่น่ารำคาญ หรือ
เสียบุคลิกภาพ
2. ผู้ชายที่ติดเชื้อตัวนี้ อาจไม่แสดงอาการอะไรก็ได้ แต่สามารถแพร่เชื้อให้ฝ่ายหญิง ทางที่ดี 
ถ้าพบว่าฝ่ายหญิงเป็นโรคนี้ ควรให้ฝ่ายชายกินยารักษาพร้อม ๆ กันไปด้วย

การป้องกัน
การป้องกัน ให้หลีกเลี่ยงการสวมใส่กางเกงในที่ทำจากไนล่อน หรือใยสังเคราะห์ เพราะทำ
ให้อับชื้นซึ่งเชื้อราอาจเจริญง่าย อย่าสวนล้างช่องคลอดโดยไม่จำเป็น และอย่ากินยาปฏิชีวนะ 
(มักมีอยู่ในยาชุด) โดยไม่จำเป็น

รายละเอียด
ควรรักษาหญิงที่ตกขาวจาก เชื้อทริโคโมแนสพร้อมกับสามี

การตกขาวแบบธรรมดา
ผู้หญิง บางคนอาจมีอาการตกขาวได้บ้างเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงกึ่งกลางระหว่างรอบเดือน ซึ่งเป็นระยะที่มีการตกไข่ นอกจากนี้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือกินยาคุมกำเนิด ก็อาจมีอาการตกขาวเป็นปกติธรรมดาได้อาการตกขาวที่เป็นธรรมดา จะมีลักษณะเป็นมูกใส   หรือคล้ายแป้งเปียก แต่ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี และไม่คันโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องให้การรักษาแต่อย่าง ไร แต่ถ้าเป็นติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ หรือสงสัยว่าอาจมีสาเหตุที่ผิดปกติ   ก็ควรแนะนำผู้ป่วยไปโรงพยาบาล เพื่อทำการตรวจภายในช่องคลอด    และให้การรักษาถ้าพบมีสาเหตุที่ผิดปกติในเด็กผู้หญิง ที่ใส่กางกางในใยสังเคราะห์   บางครั้งอาจไม่รู้จักรักษาความสะอาด และปล่อยให้อบ ก็อาจมีน้ำเมือกจากช่องคลอดออกมาเปื้อนกางกางใน ซึ่งจะไม่มีกลิ่น และไม่คัน ให้รักษาความสะอาดด้วยการใช้น้ำสะอาดชะล้าง และเปลี่ยนมาใช้กางกางในผ้าฝ้ายแทนโรคช่องคลอดอักเสบ หรือ มดลูกอักเสบ อาการตกขาว การติดเชื้อภายใน ฟังดูแล้วน่ากลัว มากค่ะ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การรักษาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็แล้ว หากเราศึกษาพิจารณาให้ละเอียดทีถ้วนแล้วละก็ เราก็จะรู้เท่าทันโรคเหล่านี้ค่ะ  นอกจากการรักษาตามโรงพยาบาล ปัจจุบันหลายท่านหรือจะกล่าวได้ว่า ส่วนใหญ่ หันมาพึงพา สมุนไพรกันมาก และในท้องตลาดก็มีผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติ หลายยี่ห้อ มากมาย ล้วนแต่มีประโยชน์สำหรับคุณสุภาพสตรีค่ะ 

"โจเอล เดลี้" ผลิตสมุนไพร สมุนไพรสกัดจากธรรมชาติ ด้วยแรงบันดาลใจจากทฤษฎี "เซลล์ซ่อมเซลล์" ทำให้ผู้ผลิต ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยซ่อมแซมร่างกายคุณสุภาพสตรี โดยเฉพาะระบบภายใน ซึ่งถือว่า เป็นกองบัญชาการใหญ่ของร่างกายผู้หญิงเลยที่เดียว 

หากคุณผู้อ่านรักที่จะรักษาสุขภาพโดยไม่พึงพายา แต่หันมาพึงพาธรรมชาติ ลองพิจารณา ผลิตภัณฑ์ชั้นนำ (พรีเมี่ยมเกรด) "โจเอล เลดี้" ไว้เป็นเพื่อนสนิด ยามที่มีอาการหรือพบปัญหาระบบภายใน รับรองได้ว่า คำว่าผิดหวังไม่มีเลยทีเดี่ยว

ขอบคุณมากค่ะ






สอบถามรายละเอียด หรือ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ 086-977-2693

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น